แบบตัดสินใจแน่วแน่ที่จะรวมการทำโปรโตไทป์เข้าสู่วงจรการพัฒนาระบบงานและโครงการ (SDLC) ในขั้นตอนของการศึกษาความต้องการของผู้ใช้ระบบแล้ว นักวิเคราะห์ระบบก็ควรจะศึกษาถึงขั้นตอนของการพัฒนาโปรโตไทป์ ซึ่งมีด้วยกัน 4 ขั้นตอน และแต่ละขั้นตอน ก็ต้องทำต่อเนื่องกันไป ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 แยกระบบงานใหญ่ให้เป็นระบบงานย่อย
เป็นการยากที่นักวิเคราะห์ระบบจะทำโปรโตไทป์สำหรับระบบขึ้นมาในครั้งเดียว ดังนั้น นักวิเคราะห์ระบบจึงต้อง แยกส่วนของระบบงารที่เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องทำโปรโตไทป์เป็นส่วน ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและวิเคราะห์
ขั้นตอนที่ 2 สร้างโปรโตไทป์ให้เสร็จเร็วที่สุด
ในการพัฒนาระบบงาน มักจะเกิดช่องว่างของระยะเวลาระหว่างการศึกษาความต้องการของผู้ใช้ระบบและการติด ตั้งระบบงานใหม่ที่ได้พัฒนาจนสำเร็จแล้ว ซึ่งช่องว่างนี่เอง มักไม่ค่อยมีใครคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้ใช้ระบบที่ อาจเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา
การที่จะทำโพรโตไทป์ให้เร็วที่สุด นักวิเคราะห์อาจจะใช้เครื่องมือพิเศษ (special tools) เช่นCASE (Computer Adided System Engineering ) ภาษายุคที่ 4 (Fourth Generation Languages/4GL)ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management SYAtem/DBMS) หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่ใช้ในการสร้างอินพุตและเอ้าท์พุตหรือ Application Generators เพื่อให้ผู้ใช้ระบบได้เห็นภาพจำลองของระบบงานจริง
ขั้นตอนที่ 3 ต้องมีความยืดหยุ่นในการทำโปรโตไทป์
ความยืดหยุ่นในที่นี้หมายถึง การทำโปรโตไทป์ให้มีลักษณะที่จะสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่ใช่ทำในลักษณะตายตัวจะแก้ไขอะไรต้องทำใหม่หมด และก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องแก้ไขใหม่ทั้งหมดที่ผู้ใช้ระบบคนใดคนหนึ่ง ท้วงติงขึ้นมา การแก้ไขที่เกิดขึ้นควรจะช่วยให้ระบบงานเข้าใกล้ความต้องการของผู้ใช้ระบบมากที่สุด
ขั้นตอนที่4 การดึงผู้ใช้ระบบเข้าร่วมเพื่อแสดงความคิดเห็น
ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการจัดทำโพรโตไทป์มีวัตถุประสงค์ที่จะพยายามให้การดีไซน์และพัฒนาระบบเป็นไป ตามความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ หากผู้ใช้ระบบเห็นว่ายังมีบางส่วนที่ไม่เหมาะสม นักวิเคราะห์ระบบควรแก้ไขโปรโตไทป์ให้ผู้ใช้ระบบได้พิจารณาอีกครั้งว่าเป็นไปตามความต้องการหรือไม่
บทบาทของผู้ระบบที่มีต่อการทำโปรโตไทป์
บทบาทของผู้ใช้ระบบในการที่จะช่วยเหลือนักวิเคราะห์ในเรื่องของโพรโตไทป์มีอยู่ด้วยกัน 3 ทางคือ
1. ทดลองโปรโตไทป์
ในการทดลองใช้โพรโตไทป์ คำแนะนำถึงวิธีใช้งานจะน้อยมาก โดยนักวิเคราะห์ระบบจะปล่อยให้ผู้ใช้ระบบทดลองใช้โปรโตไทป์ด้วยตัวเอง ในการศึกษาถึงปฏิกิริยาของผู้ใช้ที่มีต่อโปรโตไทป์ นักวิเคราะห์จะได้อะไรดีๆ หลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากแนวความคิดของผู้ใช้ระบบ ควรจัดทำเป็นบันทึกและสำเนาให้กับทีมงาน เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงข้อมูลและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา
2. แสดงทัศนะคติต่อการทำโปรโตไทป์
ในส่วนนี้ เป็นการยากที่จะทำให้ผู้ใช้ระบบแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกที่แท้จริงเพราะกลัวว่าจะไปกระทบต่อนักวิเคราะห์ระบบ ซึ่งสิ่งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเอง และการวางตัวของนักวิเคราะห์ระบบ ว่าจะทำให้ผู้ใช้ระบบไว้วางใจตนเอง ได้มากน้อยอย่างไร
3. ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงแก้ไขโปรโตไทป์
หากผู้ใช้ระบบคิดว่าควรเพิ่มเติมหรือตัดออกสำหรับบางขั้นตอนของระบบงาน นักวิเคราะห์ระบบควรแสดงความเต็มใจที่จะระบบฟัง ความคิดเห็นและคำแนะนำนั้น ๆ พร้อมกับสอบถามถึงสาเหตุและความต้องการของผู้ใช้ระบบ
|